เรื่องเล่าขานพ่อแก่ หรือ บางท่านเรียกพระฤๅษี
พ่อแก่ หรือ บางท่านเรียกพระฤๅษีตามตำนานของพระฤๅษีได้จัดแบ่งแยกเอาไว้เป็นชั้น ๆ รวมทั้งหมด ๓
ชั้น ซึ่งแตกต่างไม่เป็นคนละเรื่องเกี่ยวกับประวัติพ่อแก่
๑. ชั้นดิน
๒. ชั้นเทพ ๓.
ชั้นพรหม ซึ่งก็จะแยกกันออกไปอีก ๔
ประเภท
ตามจุดมุ่งหมายที่ไม่เหมือนกันดังนี้
๑. พระพรหมฤๅษี
เรียกว่า พรหมรรษี มีการปฏิบัติเพียงพอ จึงได้บังเกิดเป็นพระพรหมบางความเชื่อกล่าวว่าพ่อแก่
คือพระฤๅษีชั้นพรหม
๒. เทพฤๅษี
เรียกว่า เทวรรษี ผู้ที่มีฤทธิ์มีอำนาจจากการปฏิบัติ
จึงเกิดเป็นเทพ
๓. เจ้าฤๅษี
เรียกว่า ราชรรษี ผู้ที่มีฐานะและความเป็นอยู่ตามพื้นดินธรรมดา
๔. มหาฤๅษี
เรียกว่า มหรรษี ผู้ที่มีภูมิปัญญาคาถาอาคมและบารมีสูงมาก
ครับ รวมทั้ง ๔
อย่างดังกล่าวนี้ ก็ล้วนแล้วแต่การกระทำในความมุ่งมั่นและตั้งใจในการปฏิบัติ
ได้เท่าใดผลรับก็จะช่วยส่งผลบุญและก็จะได้บันดาลให้ถึงขั้นนั้น ๆ
แล้วแต่ภูมิธรรมของผู้ใดที่จะช่วยส่งผลอันประเสริฐ ที่จะได้บังเกิดขึ้นมา ก็เนื่องจากการบำเพ็ญตบะบารมี
มากน้อยเพียงใดแต่ในทางตำราของชาวจีน เขามักจะเรียกพระฤๅษีว่าเซียนเหย่งเซียนเต๋า
จึงจะตีให้เป็นความหมายออกมาได้ว่า
เป็นผู้ซึ่งไม่มีการตาย
และในการจัดแบ่งชั้นของทางชาวจีนก็ยังจัดแยกออกไป ๕ พวกอีก
๑. กุ้ยเซียน
แปลว่า เปรตฤๅษี จะเที่ยวเร่ร่อนในรูปแบบของสัมภเวสีหรืออสูรกาย
๒. ตี้เซียน
แปลว่า ภูมิฤๅษี อาศัยอยู่ตามหลืบ ตามซอกเขาและในถ้ำต่าง ๆ
ทั่วไป
๓. เหย่งเซียน
แปลว่า นรฤๅษี มักจะอาศัยจำศีลภาวนาบำเพ็ญตบะอยู่ในหมู่มนุษย์
๔. เซียนเซียน
แปลว่า บุรษฤาษี ก็ไม่มีที่อยู่และที่อาศัยเป็นหลักแหล่งมักจะเที่ยวไปในอากาศ
๕. เถียนเซียน
แปลว่า เทพฤๅษี ส่วนใหญ่มักจะบำเพ็ญตบะอยู่โดยรอบ ๆ
เขาพระสุเมรุ
สำหรับตามชั้นของพระฤๅษีตามคำที่ใช้เรียกกัน
ก็ยังมีการแยกระดับออกไปอีก
มีความจำเป็นและสำคัญยิ่งที่ข้าพเจ้าจะต้องอธิบาย และก็หวังว่าคงจะต้องเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน
ก็คือ รายชื่อของพระฤๅษีหรือ พ่อแก่ที่ได้แบ่งแยกออกไป๘ อย่าง ดังนี้คือ
๑. สิทธา ๒. โยคี ๓. มุนี
๔. ดาบส ๕. ชฎิล ๖. นักสิทธิ์
๗. นักพรต ๘. พราหมณ์
รวมแล้วทั้ง ๘ นามนี้
เมื่อจะนำเอาเข้ามารวมกันแล้วผลที่ปรากฏแน่ชัดออกมาก็คือ ผู้ทรงศีล
ผู้ที่มีความมุ่งหวังตั้งใจบำเพ็ญเพียรในตบะบารมี
มุ่งหวังในความสำเร็จด้วยกันทั้งนั้น และในคำที่เรียกว่าสำเร็จนี้
บางทีท่านผู้อ่านก็อาจจะมีความสงสัยกันอีก
คือถ้าหากว่าเป็นการสำเร็จบรรลุตามเป้าหมายในโสดาบันหรือโสดาปัตติผล
ก็จะต้องมีทิพญาณและจุกษุญาณอยู่ในชั้นแต่ละชั้น
ก็จะได้สิทธิ์และมีโอกาสที่จะได้ขึ้นไปเกิดบนพรหมโลก เป็นพรหมที่แสน
สุขหมดสิ้นทุกข์ไปจากโลกภายนอก
และถึงกระนั้นเมื่อได้ขึ้นไปเกิดในพรหมโลกเป็นพระพรหมได้สำเร็จแล้ว
ก็ยังจะต้องบำเพ็ญตบะต่อไปอีกเพื่อที่จะให้ชั้นภูมิของตนในการปฏิบัตินั้นสูงขึ้นไปอีก
พ่อแก่ฤๅษี108ตนในบรรดาองค์พระฤๅษีที่มีชื่อเรียกที่แยกกันออกไปก็ยังเห็นว่าพอจะมีความหมายที่แตกต่างกันออกไปอีก
(credit: เนื้อหาหนังสือตำนานพระฤาษี อ. ว.จีนประดิษฐ์)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น